NETA ร่วมมือ PEA เพิ่มความสะดวกในการชาร์จรถยนต์
พลังงานไฟฟ้า ที่สถานี PEA VOLTA ทั่วประเทศ เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าคนไทยและเตรียมความพร้อมก่อนเปิดตัว NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 %
Brands PR News - 16 สิงหาคม 2565
กรุงเทพฯ, 1 สิงหาคม 2565 - บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าคนไทยและเตรียมความพร้อมก่อนเปิดตัว NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในฐานะผู้สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จและผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน PEA VOLTA มอบความสะดวกสบายในการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA ที่สถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ PEA ที่จะมีกว่า 263 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัด ทั่วประเทศภายในปี 2566
มร. อเล็กซ์ เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า“ตามที่บริษัทฯ ได้มีกำหนดเปิดตัว NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ NETA สู่ตลาดประเทศไทยในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ ในระหว่างนี้ บริษัทฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้านเพื่อให้ลูกค้าคนไทยมั่นใจในการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเราได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เรื่อง “INNOVATION DEVELOPMENT FOR ELECTRIC VEHICLE USE IN THAILAND” โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาการให้บริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีความความสะดวกและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้ารองรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย”
สำหรับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับ AUTOCHARGE ที่มาเสริมแกร่งให้แอปพลิเคชัน PEA VOLTA เป็นหนึ่งในทางเลือกที่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ช่วยลดขั้นตอนการทำงานในการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าภายในสถานี ทำให้การชาร์จเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ปัจจุบัน AUTOCHARGE เปิดให้บริการสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ณ สถานี PEA VOLTA ที่กำหนด พร้อมทั้งได้วางแผนทำการวิจัยเพื่อเพิ่มให้ AUTOCHARGE รองรับระบบการชาร์จอื่นๆ ที่มีในประเทศไทยในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้กำหนดมาตรการเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐในการขับเคลื่อนเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยมีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว บนเส้นทางหลักทุกๆ ประมาณ 100 กิโลเมตร ปัจจุบัน เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 73 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ 42 จังหวัด และตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการบนเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญรวม 263 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2566